แม่คือครู ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต
เรื่องจริง ประสบการณ์ตรง
“แม่คือครู ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต”
คุณแม่คือครูผู้ยิ่งใหญ่ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิตก็ยังเป็นครูให้ลูก
ตอน “จูงจิตสุดท้ายของคุณแม่ไปสู่ภพภูมิที่ดี”
คุณแม่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ (ร.พ. ทหารเรือ) ด้วยโรคหลอดเลือดสมองตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 61 วันที่ 13 ก.ย. 61 เฝ้าดูอาการคุณแม่ก็ดูดีขึ้นเพราะเห็นการตอบสนองทุกอย่างค่อนข้างดี แต่พอเช้าวันที่ 14 ก.ย. 61 เวลาหกโมงเช้าพยาบาลโทรมาบอกว่าคุณแม่ความดันลดลงอย่างต่อเนื่อง อาการแย่ลง พยาบาลถามว่า “จะให้ยากระตุ้นความดันหรือไม่? ผมบอกพยาบาลไปว่า “ให้เลยครับ” แล้วก็โทรบอกพี่ชายให้รีบไปหาคุณแม่โดยด่วน ผมจะรีบขับรถไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ในระหว่างทางที่ขับรถขึ้นทางด่วนไปโรงพยาบาลนั้น กำลังถึงทางลงที่จะไปทางดาวคะนอง เวลา 7.34 น. พี่ชายโทรมา
บอกว่า “คุณแม่หัวใจหยุดเต้นแล้ว พยาบาลถามว่า ปั้มหัวใจมั้ย” ผมตอบกลับไปว่า “ไม่ปั้ม เพราะคุณแม่อายุมากแล้ว” ในตอนนั้นผมต้องควบคุมสติอย่างมากเพราะรู้ว่าคุณแม่กำลังจะจากลูกๆ ไปแล้ว ผมบอกให้คุณวิ โทรกลับไปบอกพี่ชายว่า บอกแม่ด้วยว่า “รอผมด้วยนะ”
ผมไปถึงโรงพยาบาลเวลา ประมาณแปดโมงกว่าๆ เมื่อไปถึงหอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิงชั้น 6 มองไปที่เตียงคุณแม่มีผ้าม่านปิดหมดก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเข้าไปถึงเห็นคุณแม่นอนหลับอยู่ พยาบาลก็เข้ามาบอกว่าในทางการแพทย์นั้นยุติแล้ว คุณแม่จากไปแล้ว ช่วงนี้ให้ลูกหลานรวมถึงญาติๆ มาสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย
ผมก็ตรงเข้าไปกราบแม่ กอดแม่ร้องไห้แล้วพูดกับคุณแม่(กระซิบเบาๆ ข้างหู) ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา แล้วผมก็พูดจูงจิตคุณแม่ให้เตรียมตัวทำบุญใส่บาตรโดยบอกว่า “แม่ทำบุญใส่บาตรกันนะ หลวงตามาแล้ว หลวงตายืนอยู่หน้าแม่แล้วนะ แม่ยกขันข้าวอธิษฐาน แม่ตักข้าวทัพพีที่หนึ่งใส่บาตร ทัพพีที่สองใส่บาตร ผมหยิบกับข้าวให้นะ แม่นี่น้ำ ขนมด้วยแม่ ใส่บาตรน้า” ผมร้องไห้ไปพูดไป “แม่ พระสองแม่ลูก มาแล้ว” พูดผิดพูดถูก “พระสองพ่อลูกมาแล้ว แม่ใส่บาตรน้า แม่ตักข้าวน้า ทัพพีที่หนึ่ง ทัพพีที่สอง แม่ใส่กับข้าวน้า ผมหยิบให้แล้ว นี่แม่ขนม น้ำด้วย” ผมพูดไปร้องไห้ไป
“แม่เราไปทำบุญงานวัดราชโอรสกันนะ ไปถวายพระไตรจีวร ไปตักบาตรนพเคราะห์ด้วยนะแม่ แม่ไปทำบุญวัดแก้วไพฑูรย์กัน ผมเข็นรถให้แม่นั่ง ลูกเทพแม่ก็ไปด้วย (ลูกเทพหมายถึงคุณวิ แม่จะเรียกว่าลูกเทพเพราะดูแลแม่ ทำให้แม่ได้ทุกอย่าง) แม่ถือไฟฉายส่องทางด้วยนะ ไปถึงวัดแล้ว แม่ทำบุญพระประจำวันเกิด ประจำปีเกิด แม่เดินขึ้นโบถส์ได้เองเลย เดินขึ้นไป ถวายสังฆทานพระในโบถส์ ”
ผมจูงจิตคุณแม่ทำบุญตลอดเวลาในช่วงที่ผมกำลังพูดอยู่ คุณวิสังเกตเห็นในจอมอนิเตอร์ที่มีเส้นตรงเรียบๆ กลับมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงได้เป็นระยะๆ ทำให้ผมยิ่งมีกำลังใจพูดมากยิ่งขึ้น (แม้จะพูดทั้งน้ำตา) เพราะการเคลื่อนไหวในจอมอร์นิเตอร์นั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณแม่รับรู้แล้ว จิตคุณแม่กำลังอยู่กับบุญกุศลที่แม่เคยทำมา สิ่งที่ผมพูดคือ ผม คุณวิ คุณแม่ทำบุญมาด้วยกันตลอดเวลา 3 ปีเต็มตามวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดราชโอรส วัดศาลาครืน วัดแก้วไพฑูรย์ วัดสิงห์ วัดไทร และวัดบางประทุนนอก จิตสุดท้ายของคุณแม่กำลังอยู่กับบุญกุศลของท่าน
สักพักผมก็ให้คุณวิ เข้ามาคุยกับคุณแม่ และพี่ชายที่ออกไปคุยโทรศัพท์ตามภรรยาและลูกซึ่งก็คือหลานคุณแม่ พี่ชายกลับมาก็เข้าไปคุยกับคุณแม่ร้องไห้ไปคุยไป และทุกคนที่ตามมาก็เข้ามาคุยกับคุณแม่ ทุกอย่างอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของคุณแม่
เมื่อทุกคนร่ำลาคุณแม่เสร็จแล้วก็ออกมา พยาบาลบอก “จะเข้าไปอาบน้ำให้คุณยายเป็นครั้งสุดท้าย” หลังจากเสร็จแล้ว เจ้าหหน้าที่ก็พาคุณแม่ไปยังห้องนิติเวช ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข็นเตียงคุณแม่ไป ใบหน้าคุณแม่เหมือนคนนอนหลับแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
สิ่งที่ผมทำหน้าที่ของลูกในวาระสุดท้ายของชีวิตคุณแม่คือ “การจูงจิตสุดท้ายของคุณแม่” ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ซึ่งความสำเร็จนี้ผมคิดมาโดยตลอดว่าหากคุณแม่จากไป ขอให้คุณแม่ไปสู่ภพภูมิที่ดี แล้วในที่สุดผมก็ทำสำเร็จแล้วจริงๆ
สำหรับเรื่องจริงประสบการณ์ตรงในครั้งนี้คุณแม่เป็นครูจริงๆ ครับ ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิตท่าน โดยความรู้จากคุณแม่ในครั้งนี้คุณแม่สอนผมโดยที่ผมไม่เคยรู้มากก่อนเลย ไม่ใช่ทฤษฎีที่อ่านในหนังสือแต่เป็นประสบการณ์ตรงในชีวิตที่ทำให้ผมรู้เรื่องจิตสุดท้ายหลังความตายว่าเป็นอย่างไร เราจะไปเกิดในภพภูมิใด
ผมขอให้เป็นธรรมทานกับทุกๆ ท่าน เพราะถึงอย่างไรเราก็ต้องเจอเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว แต่จะเตรียมตัวอย่างไร? เท่านั้นเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ พยายามดูแลท่านให้ดีนะครับ พาท่านทำบุญสร้างกุศลให้มากๆ และเมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง (ซึ่งก็ถึงด้วยกันหมดทุกคน) พาท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี เหมือนดั่งที่ผมทำสำเร็จมาแล้ว
ผมขออุทิศบุญกุศลจากการให้ธรรมทานในครั้งนี้สำเร็จแด่คุณแม่นิตย์ เอี่ยมละออ ขอให้ดวงจิตของท่านมีความสุขในภพภูมิใหม่ของท่าน และขอเป็นกำลังใจให้กับ ทุกๆ ท่าน ให้ทำแต่ความดี สร้างบุญ สร้างกุศลในเวลาที่เหลืออยู่ ขอให้มีความสุขครับ