“เสียงมีพลังดังสดใส หวั่นไหวในใจคน”
“พลังเสียงทำให้จิตใจหวั่นไหว” การมีพลังเสียงที่ดังชัดเจน จะทำให้พิธีกรมีความโดดเด่น ดูดีสง่างาม ทำให้น่าสนใจน่าติดตาม อาจจะบอกว่าเป็นคุณสมบัติพิเศษเลยก็ว่าได้
หลายต่อหลายครั้งที่มองเห็นพิธีกรดำเนินรายการ เอาไมค์จ่อปาก เสียงดังอู้อี่ ฟังแล้วไม่ชัดเจน ไม่สบายหู ก็เพราะเป็นเสียงที่ดังมาจากเครื่องขยายเสียงนั่นเอง นอกจากเสียงดังไม่ชัดเจนสะกดผู้ฟังไม่ได้แล้วยังดูบุคลิกภาพเสียอีกต่างหาก เพราะรูปร่างดีแต่ถ่ายรูปมามีแต่ไมค์ติดปากไม่สวยเลย ปัญหาที่ต้องเอาไมค์จ่อปากเพราะเสียงไม่ดังพอ หรือเข้าใจผิดคิดว่าต้องใช้เสียงจากเครื่องขยายเสียงเท่านั้นอีกประการหนึ่งคือไม่รู้หลักการใช้เสียงของตัวเองประกอบกับเครื่องขยายเสียงว่าที่ถูกต้องนั้นทำอย่างไร?
การใช้เสียงที่ดังและชัดเจนของพิธีกรนั้นหลักการที่ถูกต้องคือ ต้องใช้พลังเสียงที่เกิดจากลมที่อยู่ในท้องเท่านั้น ไม่ไช่ใช้เสียงจากลำคอ และเสียงที่ใช้นั้นต้องมีเสียงสูง เสียงต่ำ หนัก เบา จังหวะการพูดต้องมีเร็วมีช้าสลับกันไป จะทำให้ผู้ฟังไม่เบื่อ การใช้พลังเสียงที่เกิดจากลมที่อยู่ในท้องจะสามารถพูดได้ทั้งวัน จะทำให้ผู้ฟังได้ยินชัดเจน และเมื่อมาใช้ประกอบกับเครื่องขยายเสียงคือไมค์โครโฟน ต้องใช้เสียงจากตัวเรา 70 % และใช้เสียงจากเครื่องขยายเสียงหรือไมค์โครโฟน 30 % ดังนั้นการถือไมค์จึงต้องถือต่ำกว่าไหล่ให้อยู่ใต้คาง 45 องศาหันเข้าหาตัว เมื่อรู้อย่างนี้แล้วพิธีกรที่ดีต้องฝึกฝนมากๆ เพื่อทำให้เสียงมีพลังดังชัดเจนและมีบุคลิกภาพที่โดดเด่นดูดีสง่างามสมกับการเป็นพิธีกรมืออาชีพ
บทความโดย อ.กร การันตี
https://www.richtraining.com