การพูดบนเวที ต้องหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ จึงจะเก่ง
“การพูด หมายถึงการสื่อความหมาย ที่ทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยการเปล่งวาจาระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง สามารถสื่อความหมายจากคำพูดนั้นๆ ได้จากภาษาและเสียง”
จากข้อความดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการพูดจึงเป็นการสือสารทำความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง
ไม่ว่าจะมีผู้พูดกับผู้ฟัง สองคน สามคนหรือจะกี่คนก็ตามที่จะต้องสือสารให้เข้าใจกัน
แต่ปัญหาก็คือเวลาพูดต่อหน้าคนเยอะๆ บนเวทีนี่สิขามันสั่น มันประหม่า
รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ไม่รุ้จะทำอย่างไรดี ที่สำคัญคือ กลัว! ไม่กล้าพูด ไม่มีความเชื่อมั่นเอาเสียเลย บางทีก็วกไปวนมา เรียงลำดับการพูดไม่ได้
เชื่อว่าหลายๆท่านคงเป็นเช่นนี้ อาการเหล่านี้จะหมดไปทันทีถ้าเราเรียนรู้และหมั่นฝึกฝนให้มากพอ เราจะระงับความกลัวได้ถ้าเรามีข้อมูลมีรายละเอียดในเรื่องที่จะพูดแล้วเรียงลำดับความสำคัญว่าจะพูดอะไรพูดก่อน อะไรพูดเทีหลัง
ถ้อยคำ น้ำเสียงต้องดังชัดเจน การพูดที่ดีต้องพูดไม่เกิน 100 คำต่อนาที มีเสียงสูงตำ หนัก เบา มีจังหวะการพูด เร็ว ช้า สลับกัน ที่สำคัญต้องใช้เสียงจากลมที่อยู่ในท้อง
ภาษาที่ใช้ต้องฟังแล้วผู้ฟังเเข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และระหว่างพูดต้องมีรอยยิ้ม ไม่ทำใบหน้าบึ้งตึงใส่ผู้ฟัง การฝึกพูดบ่อยๆ จะช่วยทำให้ลดความประหม่าลงได้และทำให้เราประสบความสำเร็จในการพูดมากยิ่งขึ้น หากเราให้ความสำคัญกับการพูดหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ เราก็จะยิ่งประสพความสำเร็จมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ การันตี!!!!